innovation for education
หน้าแรก
นวัตกรรมการศึกษา
ความหมาย
ความสำคัญ
คุณลักษณะ
แนวคิดพื้นฐาน
ประเภท
ประเภทตาม พรบ.การศึกษา2542
>
นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
นวัตกรรมการเรียนการสอน
นวัตกรรมสื่อการสอน
นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล
นวัตกรรมการบริหารจัดการ
หลักการเลือกและออกแบบ
หลักการการสร้างนวัตกรรม
ขั้นตอนการพัฒนา
ประโยชน์
ตัวอย่างนวัตกรรมการศึกษา
นวัตกรรมประเภทสื่อการเรียนการสอน
>
E- Learning
M-Learning
E-book
CAI
นวัตกรรมประเภทเทคนิควิธีการหรือกิจกร
>
Jigsaw
TGT
Game
Storyline
Integration
Experiment
Inquiry
Dramatization
นวัตกรรมการศึกษาที่น่าสนใจในศตวรรษที21
STEM Education
Twig
MOOCs
Smart classroom
iPad
Google Apps for Education
บรรณานุกรม
...innovation นั้นคือ นวัตกรรม...
...การกระทำ คิดค้น สิ่งใหม่ๆ...
...สร้างสรรค์ พัฒนา ให้ก้าวไกล...
...ทันสมัย นำไปใช้ ให้เกิดผล...
แตงโม
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
STEM Education
STEM Education หรือ โครงการสะเต็มศึกษา เป็นนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการ กำลังผลักดันและสนับสนุนให้เกิดขึ้น STEM ที่จัดว่าเป็น นวัตกรรมการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
STEM ย่อมาจาก Science, Technology, Engineering and
Mathematics เป็นแนวทางการเรียนการสอนที่มีลักษณะของการบูรณาการการเรียนการสอน
ทั้งสี่สาขาเข้าด้วยกัน คือ
วิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics)
เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ทุกแขนงมาใช้ในการแก้ปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในชีวิตประจำวัน โดยอาศัยการจัดการเรียนรู้ด้วยครูหลายสาขาร่วมมือกัน
- Science
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ
โดยอาศัยกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry)
- Technology
เป็นวิชาที่ว่าด้วยกระบวนการทำงานที่มีการประยุกต์ศาสตร์สาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการแก้ปัญหา ปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการ หรือความจำเป็นของมนุษย์
- Engineering
เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสร้างสิ่ง
ต่างๆ
เพื่อมาอำนวยความสะดวกของมนุษย์ โดยอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และกระบวนการทางเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้สร้างสรรค์ชิ้นงานนั้นๆ
- Mathematics
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับการคำนวณ หรือ
วิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณ เป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาและต่อยอดทางวิศวกรรมศาสตร์
สาเหตุที่ต้องมี STEM EDUCATION หรือ สะเต็มศึกษา
จุดเริ่มต้นของแนวคิด STEM มาจากสหรัฐอเมริกา ที่ประสบปัญหาเรื่อง ผลการทดสอบ PISA ของสหรัฐอเมริกา ที่ต่ำกว่าหลายประเทศ และส่งผลต่อขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวิศวกรรม รัฐบาลจึงมีนโยบาย ส่งเสริมการศึกษาโดยพัฒนา STEM ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยยกระดับผลการทดสอบ PISA ให้สูงขึ้น และจะเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (21st Century skills)
ประเทศไทย
ของเราเองก็ประสบปัญหาในลักษณะคล้ายกัน เช่น นักเรียนไม่เข้าใจบทเรียนอย่างแท้จริง เรียนอย่างท่องจำ ให้ทำข้อสอบผ่าน เมื่อผ่านไปอีกภาคการศึกษาหนึ่ง เกิดปัญหาลืมบทเรียนที่จบไปแล้ว อาจเป็นเพราะนักเรียนไม่เข้าใจว่า บทเรียนนั้นนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้อย่างไร จึงทำให้นักเรียนไม่สามารถเชื่อมต่อความรู้เป็นภาพใหญ่ได้
ตัวอย่างการเรียนการสอนในประเทศญี่ปุ่น
:
ประเทศญี่ปุ่น มักจะที่ประสบภัยพิบัติมาตลอด จึงนำมาประเด็นดังกล่าว มาใช้ในภาคการศึกษา ดังเช่น การคำนวณพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม การไหลของน้ำ การเคลื่อนที่ของคลื่นซึนามิ แม้จะเป็นความเข้าใจในพื้นฐานไม่ลึกซึ้ง เท่ากับการศึกษาด้วยแบบจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ (computer modeling) ที่หน่วยงานดูแลและบริหารใช้งานอยู่จริง แต่ก็ทำให้นักเรียนเห็นภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น
การดำเนินการในประเทศไทย
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จะสร้างศูนย์เรียนรู้นำร่อง 10 จังหวัด แต่ละจังหวัดจะมีจำนวน 3 โรงเรียน รวม 30 โรงเรียน ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อสร้างแนวทางการดำเนินงานและวัดผลให้เป็นรูปธรรม และหลังจากนั้นจึงจะได้ขยายไปสู่วงกว้างต่อไป จึงอาจกล่าวได้ว่า
โครงการ “สะเต็มศึกษา” เป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างคนไทยรุ่นใหม่ ให้มีทักษะในการสร้างนวัตกรรม ที่จะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ